วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

A Rocket To The Moon Going Out แปล

 
A Rocket To The Moon Going Out แปล
 
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่เก่งอังกฤษนะครับ
 
 
 
 
..................................................................................................................
 
 
 
 
 
 
"Going Out"

We are always trying to find a way to get back home
 Party like it was ‘99
 Howling at the moon
 'cause we get loud, a little wild, when we go out
 Took a yellow taxi home that night after closing time
 And drove around with one headlight ‘til the driver lost his mind
 'cause we get loud, a little wild, when we go out
 
เรามักพยายามที่จะหาทางที่จะกลับบ้าน
ปาร์ตี้ปี 1999
เห่าหอนไปถึงดวงจันทร์
เราได้ยินเสียงของธรรมชาติเมื่อออกไปข้างนอก
กลับบ้านด้วยแท็กซี่สีเหลืองหลังจากเวลาร้านปิด
และขับไปเรื่อยๆจนเราไม่คิดอะไร
เราได้ยินเสียงของธรรมชาติเมื่อออกไปข้างนอก

 Forget about what they say when all is said and done
 We won’t remember anyway when the morning comes
ลืมทุกๆอย่างที่เขาพูดและทำไป
เราไม่ลืมอยู่แล้วเมื่อถึงตอนเช้า

 When we go out, we can get crazy
 We can go all night
 Everyone’s our best friend
 Everything’s alright
 Let’s go out, let’s get crazy
 Maybe’s not allowed
 Drop everything you have that gets you down
 'cause we’re going out
 
เมื่อเราออกไปข้างนอก เราสามารถออกไปบ้า
เราสามารถไปได้ทั้งคืน
ทุกๆคนคือเพื่อนที่ดี
ทุกๆอย่างจะโอเค
ออกไปข้างนอก ออกไปบ้ากัน
อาจจะไม่ได้รับอณนุญาต
ทิ้งทุกๆอย่างที่คุณมีไว้ที่พื้น
แล้วเราจะออกไปข้างนอกกัน

 Johnny met a girl one night
 And planned a night alone
 So we thought that we’d just drop by
 And let them both know
 That we're gettin' loud
 A little wild
 So we all went out
 
 จอนนี่พบหญิงสาวคนหนึ่งในคืนหนึ่ง
และมีแผนว่าจะไปคนเดี่ยว
ดังนั้นพวกเราแค่ทิ้งความคิดนี้ลงไป
และให้เขาทั้งสองรู้ว่า
พวกเขาเสียงดัง
ในป่าเล็กๆ
ดังนั้นเราทุกคนออกไป

Forget about what they say when all is said and done
 We won’t remember anyway when the morning comes
 
ลืมทุกๆอย่างที่เขาพูดและทำไป
เราไม่ลืมอยู่แล้วเมื่อถึงตอนเช้า
 
When we go out, we can get crazy
 We can go all night
 Everyone’s our best friend
 Everything’s alright
 Let’s go out, let’s get crazy
 Maybe’s not allowed
 Drop everything you have that gets you down
 'cause we’re going out

เมื่อเราออกไปข้างนอก เราสามารถออกไปบ้า
เราสามารถไปได้ทั้งคืน
ทุกๆคนคือเพื่อนที่ดี
ทุกๆอย่างจะโอเค
ออกไปข้างนอก ออกไปบ้ากัน
อาจจะไม่ได้รับอณนุญาต
ทิ้งทุกๆอย่างที่คุณมีไว้ที่พื้น
แล้วเราจะออกไปข้างนอกกัน

 So if you want to stay out late and keep the town alive
 Talk about the friends you've made and make some more tonight
 Let’s get loud, a little wild, let’s go out
 Yeah, we get loud, a little wild, when we go out
 
ถ้าคุณอยากอยู่ในเมืองนี้จนดึก
คุณแค่คุยกับเพื่อนว่าจะทำอะไรในคืนนี้ให้มากขึ้น
เราได้ยินเสียงธรรมชาติเสียงของป่าเมื่อออกไปข้างนอก
เราได้ยินเสียงธรรมชาติเมื่อออกไปข้างนอก

 When we go out, we can get crazy
 We can go all night
 Everyone’s our best friend
 Everything’s alright
 Let’s go out, let’s get crazy
 Maybe’s not allowed
 Drop everything you have that gets you down
 Drop everything you have that gets you down
 'cause we’re going out 

เมื่อเราออกไปข้างนอก เราสามารถออกไปบ้า
เราสามารถไปได้ทั้งคืน
ทุกๆคนคือเพื่อนที่ดี
ทุกๆอย่างจะโอเค
ออกไปข้างนอก ออกไปบ้ากัน
อาจจะไม่ได้รับอณนุญาต
ทิ้งทุกๆอย่างที่คุณมีไว้ที่พื้น
ทิ้งทุกๆอย่างที่คุณมีไว้ที่พื้น
แล้วเราจะออกไปข้างนอกกัน


The Cab Another Me แปล

The Cap Another Me แปล
 
ก็ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าเก่งอังกฤษ
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
"Another Me"
 
Remember when I sang that song to you
And you called it out of tune
Remember when I said I loved you
And you said it wasn't true
Remember we used to talk for hours
Staying up all through the night
Remember when I bought you flowers
And you left them out to die

จำได้ไหมถึงตอนที่ฉันร้องเพลงให้คุณฟัง
แล้วคุณบอกว่ามันไม่เพราะ
จำได้ไหมที่ฉันบอกรักคุฯ
แล้วคุณก็บอกว่ามันไม่เป็นความจริง
จำได้ไหมถึงตอนที่เราคุยกันเป็นชั่วโมงๆ
ตลอดทั้งคืนนั้น
จำได้ไหมถึงตอนที่ฉันซื้อดอกไม้ให้คุณ
แล้วคุณก็ปล่อยให้มันตาย
 
(But now that's over)
แต่จากนั้ไป
 
I gave you everything you ever wanted
You gave me nothing but grief
Now that I'm gone you'll see I'm your missing piece
Well, good luck, finding another me
Finding another me
 
ฉันให้ทุกๆอย่างที่คุณต้องการ
คุณกลับไม่เคยให้อะไรกับฉันนอกจากความเสียใจ
ตอนนี้ฉันจะออกไปจากชีวิตคุณและคุณจะรู้สึกว่าขาดอะไรไป
ขอให้โชคดี ตามหาฉันอีกครั้ง
ตามหาฉันอีกครั้งสิ

Remember how I used to kiss you
You can kiss that all goodbye
Remember how I used to miss you
Now you don't even cross my mind
And I can't remember why I ever
Let you walk all over me
I won't take your shit forever
Now it's time for me to leave
 
จำได้ไหมว่าฉันจูบคุณอย่างไร
คุณสามารถจูบเพื่อบอกลา
จำได้ไหมที่ฉันบอกคิดถึงคุณอย่างไร
ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในใจฉันอีกแล้ว
และฉันก็ไม่รู้ทำไมถึงเคย
ให้คุณเดินเล่นในใจฉัน
ฉันจะไม่อยู่กับคุณตลอดไปหลอก
และตอนนั้ก็ถึงเวลาที่ต้องไป
 
I gave you everything you ever wanted
You gave me nothing but grief
Now that I'm gone you'll see I'm your missing piece
Well, good luck, finding another me
Finding another me
 
ฉันให้ทุกๆอย่างที่คุณต้องการ
คุณกลับไม่เคยให้อะไรกับฉันนอกจากความเสียใจ
ตอนนี้ฉันจะออกไปจากชีวิตคุณและคุณจะรู้สึกว่าขาดอะไรไป
ขอให้โชคดี ตามหาฉันอีกครั้ง
ตามหาฉันอีกครั้งสิ
 
When you cry yourself to sleep tonight
You will wish that I was by your side
Yes you will
 
เมื่อคุณร้องไห้กับตัวเองทั้งคืน
คุณจะหวังให้ฉันอยู่ข้างๆคุณ
ใช่คุณจะทำมัน

I gave you everything you ever wanted
You gave me nothing but grief
Now that I'm gone you'll see I'm your missing piece
Well, good luck, finding another me, yeah
Finding another me, oooh
 
ฉันให้ทุกๆอย่างที่คุณต้องการ
คุณกลับไม่เคยให้อะไรกับฉันนอกจากความเสียใจ
ตอนนี้ฉันจะออกไปจากชีวิตคุณและคุณจะรู้สึกว่าขาดอะไรไป
ขอให้โชคดี ตามหาฉันอีกครั้ง
ตามหาฉันอีกครั้งสิ

Now don't you know that karma tastes so sweet
So, good luck, finding another me
 
ตอนนี้คุณยังไม่รู้ว่าน้ำใจที่ฉันมีให้มีนหอมหวานแค่ไหน
โชคดี ตามหาฉันอีกครั้งสิ
 
 
 

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

Before Watchmen Rorschach # 1 สปอยล์


Before Watchmen Rorschach # 1 สปอยล์
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่าอังกฤษไม่ได้เก่งอะไรถ้าแปลพลาดก็ขออภัย





ฆาตกรกำลังเขียนข้อความลงไปในร่างของเหยื่อที่นอนตายอยู่


บันทึกของรอชาชวันที่ 1 กรกฎาคม 1977
ฉันอาศัยอยู่ที่นี้ตั้งแต่เป็นเด็ก

แม่ของฉัน (อาจจะอยู่ในนรก)
ที่นี้เรียกว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้
งานฉลองวันอีฟที่นิวยอร์คเธอพาฉันหนีออกจากกองเพลิง
ฉันโชคดีมากที่มีชีวิตรอดกลับมา
และนั่นคือหนี้ที่ฉันมีต่่อเธอ
มันเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอยิ้มให้ฉัน

หลังจากนั้นเธอก็จะถูกเหล่าลุงๆของฉันเรียกกลับไปที่เตียง

ฉันเคยออกไปข้างนอกด้วยเสื้อนอนของฉันในวันหยุดสุดสัปดาห์
มันหนาวเย็นมากเมื่ออยู่บนหิมะ
นิ้วมือของฉันเป็นสีน้ำเงิน
นิ้วเท้าของฉันเป็นสีม่วงดำ
ราวกับดอกกุหลาบ

เธอไม่ยิ้มตอนอยู่ห้องฉุกเฉิน
เธอถุ่มน้ำลายใส่ฉันกับสิ่งที่ฉันทำลงไป

มันคือสิ่งที่เปลี่ยนคุณในเส้นทางนี้



ชายหนุ่มกำลังช่วยตัวเองอยู่แล้วก็มีคนเคาะประตูชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูด้วยท่าทีที่เซ็ง ก่อนจะได้เท้าที่ถีบประตูใส่หน้าเขาเป็นการทักทายจากชายแปลกหน้า 




ชายที่อยู่เบี้ยงหน้าเขาคือรอชาชผู้ที่มาพร้อมกับหน้ากากหมึกหยด
และรอชาชก็ซ้อมชายหนุ่มอย่างเมามันส์


บันทึกของรอชาชวันที่ 6 กรกฎาคม 1977
ฉันใช้เวลาทั้งวันในการเดินลุยสิ่งสกปรกพวกนี้
ในอุโมงใต้ดินของพวกหาแร่

รอชาชเดินไปเรื่อยๆจนเจอคนเฝ้าประตู

คนเฝ้าประตู "ยังไม่นอน จ่ายให้ไม่ได้ เหมืองนี้จะทำให้ฉันรวยสักที"

รอชาช "เจอแล้ว"



รอชาชเจอคนเฝ้าประตูสองคนที่กำลังเล่นไฮโล
รอชาชด้วยความที่เป็นคนดีจึงเดินเข้าข้างหลังชายคนหนึ่งแล้วเอาไม้ฟาด


และก็จัดการไปอย่างง่ายดาย



 และเมื่อเขาเปิดประตูก็โดนหมัดเป็นการต้อนรับ



และเหล่าชายหนุ่มร่างบึกก็รุมตื้บรอชาชอย่างเมามันส์



เมื่อมันซ้อมจนพอใจแล้วเหล่าพี่บึกก็จากรอชาชไป


นักสืบและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบสถานที่พบศพหญิงสาวคนหนึ่ง

นักสืบ 1 "พระเจ้าเยซูคริส"
"ใครปล่อยให้นักข่าวมาทำข่าวที่นี้กัน"

นักสืบ 2 "เอาพวกนักข่าวออกไปจากที่นี้"
    "เอามันไปไกลๆที่เกิดเหตุ"
  
นักข่าว "คุณนักสืบคุณคิดว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระมาของ THE BARD รึเปล่าครับ"

นักสืบ 2 "พวกเรายังบอกอะไรไม่ได้ในตอนนี้"




และนักสืบทั้งสองก็เดินเข้ามาดูสภาพศพหญิงสาวในถังขยะ




รอชาชขึ้นมาจากอุโมงใต้ดิน



รอชาชงัดเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง




รอชาชเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ข้างในนั้นมีพนักงานชายหญิงกำลังคุยกันอยู่

พนักงานชาย "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น"

พนักงานหญิง "ฉันไม่ได้ทำ คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้แกล้งคุณ"

และทั้งสองก็เห็นสภาพของเพื่อนชายคนหนึ่งที่เข้ารู้จักดีที่หน้าเละไม่เป็นท่าเดินเข้ามา

พนักงานชาย "พระเจ้าช่วย"

พนักงานหญิง "เกิดอะไรขึ้น"

รอชาช "เมื่อคืนฉันโดนปล้นนะ"

พนักงานชาย "พวกนั่นคงชอบนายนะ"

พนักงานหญิง "ดูนายตอนนี้สิ"

รอชาช "คลอกๆ เสียงท้องร้อง"




รอชาช "THE BARD ฆ่าหญิงสาวคนหนึ่ง"

พนักงานสาว "ตอนนี้โลกกำลังเจอกับอะไรกัน"
       "มันจะไม่ผิดถ้าฉันจะไปกับใครสักคน"

พนักงานชาย "ใช่มันไม่ผิด"

รอชาช "แต่มันคงจะไม่ใช่ฉัน"
"พวกผู้ร้ายนั้นทำความผิด"

พนักงานสาว "คงหมายถึงคุณจะไม่ทำอะไร"

รอชาช "เปล่า"
"ฉันหมายถึงฉันจะไม่ตาย"









วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

The Cab Endlessly แปล

The Cab Endlessly แปล

แปลเพลง Endlessly ของ The Cab ซึ่งก็เป็นอีกเพลงเพราะของ The Cab
ถ้าแปลผิดก็ขอโทษด้วยนะครับต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่ค่อนเก่งอังกฤษ
สำหรับประโยคที่ผมชอบในเพลงนี้คือ I'm not perfect but I swear  I'm perfect for you

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

The Cab Her Love Is My Religion แปลแบบมั่วๆ


The Cab Her Love Is My Religion แปลแบบมั่วๆ
อาจมีการแปลถูกบ้างผิดบ้างก็อย่าว่ากันเน้อแต่ความหมายก็คงประมาณนี้และทางเจ้าของบล็อกจะนำ
ไปแก้ไขในส่วนต่อไปเน้อ

โดยเพลงนี้มีความหมายประมาณว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่หมดศรัทธาในบางอย่างจนวันหนึ่งได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เติมเต็มความรักความหวังให้กับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง
ความรักที่ผู้หญิงคนนั้นมีให้ต่อเขาจึงเป็นความเชื่อของเขา

สำหรับเพลงนี้ประโยคที่ผมชอบคงเป็น

She's the truth inside the world of lies.

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



(I said her love is my religion,
It's my religion, it's my religion,
It's my religion)

ฉันบอกเลยว่าความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน
คือความเชื่อของฉัน

Some have their Bibles, and some go to church.
Well I found my heaven inside of her.
We only talked until believe,
Gotta find our destiny.
I've got her and she's got me.


บางคนเชื่อในไบเบิ้ลและบางคนก็ไปโบสถ์
ฉันได้พบสวรรค์ของฉันในตัวของเธอ
เราได้พูดคุยกันจนเชื่อว่า
เราต้องค้นหาโชคชะตาของเราเอง
ฉันมีเธอและเธอมีฉัน

I see her when I close my eyes,
She's my only God in life.
Never gonna say goodbye,

ฉันเห็นเธอในตอนที่ฉันหลับตา
เธอคือนางฟ้าคนเดียวในชีวิตฉัน
เพราะอย่างงั้นฉันจะไม่มีวันบอกลา

'Cause I see the stars in the freckles on her face,
And I'm seein' God every time she says my name.
So mother Mary, pray for me,
Without her I'm so lost,
Her love is my religion.


ฉันเห็นดวงดาวต่างๆบนใบหน้าของเธอ
และฉันเห็นนางฟ้าทุกครั้งที่เธอเรียกชื่อฉัน
แม่เมอรี่คงมอบพรให้ฉัน
ถ้าไม่มีเธอฉันคงหลงทาง
ความรักของเธอคือความเชื่อของฉัน

Some have their crosses and their golden gates.
Well she is the grace I wear when I lose my faith.
We only talked until believe,
The words we say before we sleep.
Close my eyes and she's my dream,
She's the truth inside the world of lies.
Keeping all my hope alive,
Never going to say goodbye.


บางคนเชื่อในไม้กางเขนและประตูสีทอง
เธอคือความเชื่อเดี่ยวในวันที่ฉันสูญสิ้นศรัทธา
เราพูดคุยกันจนเราเชื่อ
คำพูดที่เราพูดก่อนที่จะนอนหลับ
เมื่อหลับตาลงไปฉันเห็นเธอได้ในความฝัน
เธอคือความจริงในโลกที่มีแต่การโกหก
ความหวังทำให้ฉันมีชีวิตอยู่
และจะไม่มีวันบอกลา

'Cause I see the stars in the freckles on her face.
And I'm seein' God every time she says my name.
So mother Mary, pray for me,
Without her I'm so lost.
Her love is my religion.


ฉันเห็นดวงดาวต่างๆบนใบหน้าของเธอ
และฉันเห็นนางฟ้าทุกครั้งที่เธอเรียกชื่อฉัน
แม่เมอรี่คงมอบพรให้ฉัน
ถ้าไม่มีเธอฉันคงหลงทาง
ความรักของเธอคือความเชื่อของฉัน

Her love is my religion,
It's my religion,
It's my religion.
I said her love is my religion,
It's my religion,
It's my religion,
I said her love is my religion,
It's my religion,
It's my religion. 

ความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน
ฉันบอกเลยว่าความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน
ฉันบอกเลยว่าความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน

'Cause I see the stars in the freckles on her face,
And I'm seein' God every time she says my name.
So mother Mary, pray for me,
Without her I'm so lost
Her love is my religion.

ฉันเห็นดวงดาวต่างๆบนใบหน้าของเธอ
และฉันเห็นนางฟ้าทุกครั้งที่เธอเรียกชื่อฉัน
แม่เมอรี่คงมอบพรให้ฉัน
ถ้าไม่มีเธอฉันคงหลงทาง
ความรักของเธอคือความเชื่อของฉัน


I said her love is my religion,
It's my religion,
It's my religion.
I said her love is my religion,
It's my religion,
It's my religion,
It's my religion.

ฉันบอกเลยว่าความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน
ฉันบอกเลยว่าความรักของเธอคือความเชื่อฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน คือความเชื่อของฉัน










The Cab La La แปลแบบมั่วๆ



The Cab La La แปลแบบมั่วๆ
ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่านี้คือผลงานแรกอาจมีการแปลแบบผิดๆถูกบ้างก็ขออภัยเน้อพร้อมทีึ่จะแก้ไข
ในผลงานต่อไป


The Cab La La

Oh-oh-oh, oh-oh-oh, oooh [x2]
Oh-oh-oh, oh-oh-oh, oh-oh-oh, oooh
Oh-oh-oh, oh-oh-oh, oooh
Come feel my heart
It’s beating like a drum and I confess
When you’re around
It’s like an army’s marching through my chest

มาฟังเสียงหัวใจของผม
มันเหมือนเสียงของกลองและผมบอกเลย
เมื่อคุณมองไปรอบๆ
มันก็เหมือนกับการเดินทัพของทหารบนอกของผม


And there’s nothing I can do
I just gravitate towards you
You’re pulling on me like the moon
I just wanna get you sideways
I say anything I can to get me more than just a dance
Tell me where to put my hands
You know that you could be my favorite one-night stand

และไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้
คุณดึงดูดให้เข้าไป
คุณดึงดูดผมเหมือนแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์
ผมแค่อยากพลักคุณไปข้างๆ
และทำให้ได้มากกว่าการเต้นรำ
บอกฉันทีวางควรวางมือไว้ตรงไหน
คุณก็รู้ว่าคุณสามรถทำให้คืนนี้เป็นคืนที่พิเศษสุดสำหรับผมได้

You get me higher
คุณทำให้ผมรู้สึกมีค่า

What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Do if I said it tonight?
What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Cause you know I la, la, la, lie

คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ 
จะทำอย่างไรถ้าผมบอกมันในคืนนี้
คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ
คุณรู้ดีว่าผมโกหก

You’re like a song
A beautiful symphony to my eyes
So take me on
I wanna sing along all through the night

คุณชอบเสียงเพลง
เสียงของวงดนตรีเปล่งประกายบนตาของผม
ดังนั้นพาผมไป
ผมอยากจะร้องเพลงทั้งคืน

I’m not like the other boys
Cause with you I’ve got no choice
You make me wanna lose my voice
I just wanna get you sideways
No, I’m not the type to lie
But I might just start tonight
Let me turn off all these lights
You know that you could be my favourite lullaby

ผมไม่ชอบพวกผู้ชายคนอื่น
มันทำให้ผมไม่มีทางเลือก
คุณทำให้ผมต้องลดเสียงของผม
ผมแค่อยากพลักคุณไปข้างๆ
ไม่ ผมไม่ใช่คนที่ชอบโกหก
แต่ผมอาจเริ่มที่คืนนี้
ให้ผมปิดไฟทั้งหมดนี้
คุณรู้ดีคุณสามารถเป็นเพลงกล่อมเด็กที่ผมชอบได้

You get me higher
คุณทำให้ผมรู้สึกมีค่า


What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Do If I said it tonight?
What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Cause you know I la, la, la, lie

คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ 
จะทำอย่างไรถ้าผมบอกมันในคืนนี้
คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ
คุณรู้ดีว่าผมโกหก

 Like a symphony
Like a symphony
Like a symphony tonight
Like a symphony
Like a symphony
Like a symphony tonight
Sounds like a symphony
Like a symphony
Like a symphony tonight
Like a symphony
Like a symphony
Like a symphony tonight
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนีในคืนนี้
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนีในคืนนี้
ชอบเสียงของซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนีในคืนนี้
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนี
ชอบซิมโฟนีในคืนนี้

What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Do If I said it tonight?
What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Cause you know I la, la, la, la, la, oooh

คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ
 จะทำอย่างไรถ้าผมบอกมันในคืนนี้
คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ
คุณรู้ดีว่าผมโกหก



What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Do if I said it tonight?
What would you do if I told you that I la, la, la, la, loved you?
Cause you know I la, la, la, lie
Ooooh

คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ 
จะทำอย่างไรถ้าผมบอกมันในคืนนี้
คุณจะทำอย่างไรถ้าผมบอกว่ารักคุณ
คุณรู้ดีว่าผมโกหก



วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับ



ดีเน้อยังไงก็ยินดีต้อนรับสู่ Bad Ending บล็อกส่วนตัวของกระผมนายโตสที่นี้รวบรวมทุกอย่างที่สนใจ
ยังไงก็ฝากบล็อกนี้ไว้ในอ้อมอกพวกท่านด้วยนะครับโดยผมจะพยายามอัพบล็อกอยู่ตลอดเวลา ถ้าว่างนะ